ช่วยผมด้วย!! สาวพาลูกชายวัย 5 ขวบมาเตะบอล หลังเลิกเล่นไม่เจอแม่ ก่อนวอนชาวบ้านตามหา พบอีกทีกลายเป็นศพ เกิดอะไรขึ้น!!

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้พาลูกชายวัย 5 ขวบ มาเตะฟุตบอลที่โรงเรียนดังกล่าว กระทั่งหลังเลิกเล่นฟุตบอลลูกชายไม่เจอแ...





เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้พาลูกชายวัย 5 ขวบ มาเตะฟุตบอลที่โรงเรียนดังกล่าว กระทั่งหลังเลิกเล่นฟุตบอลลูกชายไม่เจอแม่ ประกอบกับเป็นช่วงเวลามืดค่ำ จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านช่วยออกตามหา จนพบแม่กลายเป็นศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด โดยมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลเหวอะที่บริเวณศีรษะ มีร่องรอยเขียวช้ำบริเวณใบหน้า และขอบตาบวมปูด ส่วนต้นแขนทั้งสองข้างมีรอยช้ำคล้ายถูกจับมัด และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตที่หายไปด้วย ซึ่งสามารถโทรติดต่อได้แต่ไม่มีคนรับสาย เจ้าหน้าที่จึงนำร่างไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) สงขลา

ขณะเดียวกันก็ได้มีการนำศพของผู้ตายกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดหนองคล้า ส่วนแนวทางการสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างรอผลยืนยันการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต และทราบว่าผู้ตายกับสามีแยกกันอยู่ โดยฝ่ายชายไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่หลังจากทราบว่าภรรยาเสียชีวิต ก็ได้กลับมาจัดการเรื่องงานศพที่จังหวัดตรัง ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ลงมือน่าจะเป็นคนในพื้นที่

ด้าน นายสมจิตร ชัยเพชร อายุ 65 ปี อดีตนักการภารโรงโรงเรียนบ้านหนองคล้า กล่าวว่า ตนเดินมาพบศพผู้ตายเป็นคนแรก หลังจากลูกชายของผู้ตายยืนร้องไห้อยู่ และวิ่งมาบอกว่าแม่หายตัวไป หลังบอกว่าขอไปห้องน้ำสักเดี๋ยว ตนเลยเดินถือไฟฉายออกตามหา และได้ยินเสียงเปิดน้ำตรงอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ จึงส่องไฟเดินไปดู กระทั่งพบศพนอนคว่ำหน้าในห้องน้ำ ก่อนโทรไปหาผู้ใหญ่บ้าน และลูกของตน พร้อมทั้งเรียกแม่ค้าขายของหน้าโรงเรียนมาดู ขณะนั้นพบว่าผู้ตายมีเลือดออกเยอะมากที่ศีรษะ ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าล้มหัวฟาดพื้น กระทั่งมาทราบภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบพบว่า น่าจะเกิดจากการถูกทำร้าย

ขณะที่ พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองใบ ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะดูจากลักษณะศพและสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบพยาน 3-4 ปากแล้ว แต่ยังไม่ได้เบาะแส หรือรายละเอียดเพิ่มเติมมากนัก เพราะผู้ตายไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ซึ่งคงต้องใช้เวลาสักระยะในการสืบสวน และรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ตนได้สั่งกำชับให้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคลี่คลายคดีให้ได้ ทั้งนี้ ยังทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอาการทางจิตใจไม่ปกติ โดยก่อนหน้านี้ผู้นำท้องถิ่นและตำรวจเคยพาเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล 2 ครั้งแล้ว ซึ่งล่าสุดก็ยังกินยารักษาอาการอยู่

Cr:http://www.siamvariety.com/view-21176.html

loading...

You Might Also Like

0 comments