เวลา 13.30 น. วันที่ 7 ส.ค.60 พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ พนมชัยจิรกุล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.หนองบัวลำภู ทหาร กกล.รส.นภ. กู้ภัยนเรศวร กู้ชีพกู้ภัย อบต.โนนทัน เดินทางไปชันสูตรศพ พระอารีย์ โพธิ์สาวัง อายุ 46 ปี พระลูกวัดถ้ำกลองเพล บ้านถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน หลังมรณภาพอยู่ข้างกุฏิ ใต้ก้อนหินใหญ่ขนาดสูงกว่า 10 เมตร ที่พระในวัดเรียกกันว่าหอดูดาว เพราะอยู่สูงมองเห็นได้รอบทิศทาง ห่างจากบริเวณด้านหลังกุฏิหลวงปู่ขาว อนาลโย อดีตเจ้าอาวาสวัด ประมาณ 50 เมตร บนก้อนหินมีเพิงเล็กๆ และมีลานเดินจงกรม มีรอยครูดจากขอบทางจงกรมลงไปในป่าละเมาะด้านล่าง

ที่ใต้ก้อนหินใหญ่พบศพพระอารีย์ ในสภาพนอนหงายสวมสบง อังสะ มีรอยครูดเป็นแผลตามร่างกาย เสียชีวิตมาไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมง จากการตรวจที่เกิดเหตุสันนิษฐานว่าพระอารีย์ ได้มาเดินจงกรมที่หอดูดาว และได้ถอดรองเท้าแตะ ไว้ปลายทางจงกรม ที่เป็นคอนกรีตยกขึ้นจากพื้นก้อนหินประมาณ 10 ซม. กว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 10 เมตร มีเสาตั้งขึ้นและมีเชือกกั้นเป็นแนวเขต คาดว่าพระอารีย์ลงไปหยิบรองเท้า แล้วรองเท้าตกลงไปด้านล่าง จึงเดินเลาะมาตามแนวทางเดินจงกรม ซึ่งเป็นพื้นบนก้อนหินที่เป็นทางลาด และมีตะไคร่น้ำเกาะมีความลื่นจากฝนตก ทำให้พลัดตกลงไปจนเสียชีวิตโดยไม่มีใครเห็น

พระบุญตาม ศิริปัญโญ พระลูกวัดที่สนิทกับพระอารีย์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณตีห้าครึ่ง ก่อนออกบิณฑบาต วันที่ 6 ส.ค. ได้ตะโกนเรียกพระอารีย์ที่กุฏิ ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เนื่องจากไม่เห็นพระอารีย์ออกบิณฑบาตมาหนึ่งวันแล้ว นึกว่าไม่สบาย ก็ได้ยินเสียงตอบอยู่ จึงออกบิณฑบาตปกติ มาวันนี้ก็ไม่พบอีก หลังจากลงอุโบสถแล้ว เดินผ่านมาทางกุฏิหอดูดาว เรียกหาพระอารีย์ ก็ไม่มีเสียงตอบ ก็เลยเดินมาดูที่กุฏิ ก็พบศพที่ป่าบริเวณใต้ก้อนหินใหญ่หอดูดาวดังกล่าว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ทั้งนี้ พระอารีย์ ชอบมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่หอดูดาวเป็นประจำ เพราะเงียบสงบ

นางเดือน โพธิ์สาวัง อายุ 71 ปี โยมแม่ของพระอารีย์ ที่เดินทางมาที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า พระอารีย์ ตั้งใจมาบวชที่วัดถ้ำกลองเพลง โดยมาเป็นปะขาวที่วัดซึ่งอยู่อาศัยที่กุฏิใกล้หอดูดาว ก่อนจะบวชได้ 2 เดือน เห็นที่เกิดเหตุแล้วไม่ติดใจสาเหตุการตายและทางวัดจะจัดการศพตามประเพณีต่อไป

Cr:http://www.siamvariety.com/view-21338.html